เหล่าคนเพี้ยนผู้วางแผนลักพาตัวเอง

  Apr 5, 2019   eyeicon  436 view   Moodymuay

เหล่าคนเพี้ยนผู้วางแผนลักพาตัวเอง

 

จากคดีสะเทือนขวัญกลายเป็นเรื่องลวงโลก เมื่อพวกเขาถูกจับได้ในที่สุดว่ากุเรื่องการลักพาตัวขึ้นมา
จนต้องถูกพาไปนอนในคุกให้สาสมกับที่โกหกเอาไว้!!

 

 

Jessica Nordquist

เหล่าคนเพี้ยนผู้วางแผนลักพาตัวเอง

ในเดือนกรกฎาคม 2017 Jessica Nordquist วัย 26ปี ชาวอลาสก้า เริ่มต้นความสัมพันธ์กับ Mark Weeks เพื่อนร่วมงานของเธอที่ Unruly บริษัทประชาสัมพันธ์ในกรุงลอนดอน และเลิกรากันในเวลาไม่นาน แต่ Jessica ไม่ยอมจากไปโดยดี เธอเริ่มกล่าวหาว่า Mark ข่มขืนเธอเพื่อเป็นการแก้แค้น

Jessica ส่งข้อความไปหาลูกค้าของบริษัทและเพื่อนร่วมงาน โดยอ้างว่า Mark ข่มขืนเธอและทำให้เธอตั้งท้อง เธอเปิดแอคเคาท์ใน Instagram กว่า 20 แอคเคาท์เพื่อกล่าวหา Mark นอกจากนี้เธอยังกล่าวหาบริษัทว่ารู้เรื่องการข่มขืนที่เกิดขึ้น แต่เลือกที่จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอีกด้วย และเพื่อแสดงว่าเธอตั้งท้องจริงๆ Jessica จึงซื้อท้องปลอมมาจาก Amazon

Jessica ยังส่งข้อความอันเกรี้ยวกราดไปหา Mark และสมาชิกในครอบครัวของเขาเป็นจำนวนมาก Mark หวาดกลัวมากจนไม่กล้าแม้แต่จะนอนในบ้านของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้น Jessica ก็ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าที่เธอต้องการ เธอจึงลงมือลักพาตัวเอง

หลังจากโพสต์ท่าทางเหมือนถูกลักพาตัว Jessica ก็ส่งภาพของตัวเองที่เปลือยและถูกมัดเอาไว้ไปให้เพื่อน, เพื่อนร่วมงาน และครอบครัวของ Mark และเมื่อตำรวจมาที่บ้านของเธอก็พบกับโน้ตที่ยืนยันว่าเธอถูกลักพาตัวจริงๆ แต่เรื่องราวก็จบลงภายใน 2 วัน เมื่อตำรวจพบเธอที่โรงแรมแห่งหนึ่งในสกอตแลนด์ และท้ายที่สุด Jessica ก็ได้รับโทษจำคุก 4 ปีครึ่ง ในปี 2018

 

Dr. Mark Salerno 

เหล่าคนเพี้ยนผู้วางแผนลักพาตัวเอง

ในเดือนพฤษภาคม 2002 Dr. Mark Salerno วัย 45ปี ถูกลักพาตัวในฟีนิกซ์, แอริโซนา เขาถูกพบตัวในท้ายรถของเขาเองที่เพนซิลเวเนียใน 3 วันต่อมา การลักพาตัวของเขากลายเป็นเรื่องอื้อฉาวไปทั่วประเทศจนกระทั่งทุกคนค้นพบว่าเขาไม่เคยถูกลักพาตัวแต่อย่างใด

ในตอนแรก Mark บอกกับตำรวจและเจ้าหน้าที่เอฟบีไอว่ามีชายคนหนึ่งขโมยรถของเขาและบังคับให้เขาเข้าไปในรถ ก่อนจะขับรถวนไปทั่วก่อนและขังเขาไว้ในท้ายรถของเขาเอง อย่างไรก็ตาม เรื่องลวงโลกนี้ก็ถูกเปิดโปงเมื่อมีพยานกล่าวว่าพวกเขาเห็น Mark เป็นคนขังตัวเองไว้ในท้ายรถเสียเอง

Mark สารภาพว่าเขาจัดฉากการลักพาตัวขึ้นเพราะปัญหาส่วนตัวและปัญหาเรื่องการเงิน ภรรยาและทนายของเขากล่าวว่าเขาทุกข์ทรมานกับอาการซึมเศร้า Mark กล่าวว่าเข้าพยายามจะฆ่าตัวตายที่เขื่อนฮูเวอร์ ก่อนจะเปลี่ยนใจไปที่ซาน ดิเอโก และเพนซิลเวเนีย เขากินยาเข้าไปจำนวนหนึ่งก่อนจะขังตัวเองไว้ท้ายรถและหลับไป เมื่อตื่นขึ้นเขาก็เริ่มทุบที่ท้ายรถและขอให้ช่วยพาเขาออกไป

Mark ได้รับโทษคุมความประพฤติ 3 ปี นอกจากนี้ Joe Arpaio นายอำเภอในเวลานั้นยังเรียกเก็บเงินจากเขาเป็นเงินกว่า 8,000 ดอลลาร์ สำหรับค่าทำงานล่วงเวลาของเจ้าหน้าที่ที่ทำคดีของเขา 6 สัปดาห์ต่อมา Mark ก็หายไปอีกครั้ง คราวนี้เขาถูกพบที่พิตส์เบิร์ก เพราะชาวบ้านในระแวกนั้นแจ้งตำรวจเพราะเห็นเขาขโมยผ้าเช็ดตัวจากราวแขวนผ้า หลังจากนั้นในวันที่ 12 ตุลาคม 2018 เขาก็หายตัวไปอีกครั้ง

 

 

Kevin McGeever

เหล่าคนเพี้ยนผู้วางแผนลักพาตัวเอง

ในค่ำคืนของวันที่ 29 มกราคม 2013 Catherine Vallely และ Peter Reihill พบผู้ชายสภาพรุงรังคนหนึ่งบนถนนที่ห่างไกลในไอร์แลนด์ ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจรับชายคนนั้นขึ้นรถและพาเขากลับบ้าน ซึ่งชายคนนั้นคือ Kevin McGeever วัย 68 ปี นักต้มตุ๋นระดับนานาชาติ ที่ทำการต้มตุ๋นมาตั้งแต่อายุ 29 ปี!

หลังจากประสบความสำเร็จจากการต้มตุ๋น Kevin ก็มักจะทิ้งบ้านและรถราคาแพง รวมทั้งครอบครัวไว้ข้างหลังก่อนจะหนีไปยังประเทศอื่นบ่อยๆ ต่อมาในปี 2000 เขาก็หนีออกจากบ้านในจอร์เจียไปยังไอร์แลนด์ เพราะเอฟบีไอตามล่าตัวเขาเนื่องจากเขาไปหลอกให้นักลงทุนหลายคนซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีอยู่จริงในดูไบ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 8 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังหลอกนักลงทุนคนอื่นๆ รวมมูลค่าความเสียหายสูงถึง 70 ล้านยูโรอีกด้วย 

ตอนที่ถูกพบตัว Kevin อ้างว่าเขาถูกลักพาตัวและขังไว้ใต้ดินนานถึง 8 เดือน เมื่อพลเมืองดีทั้งคู่พาเขาไปที่สถานีตำรวจ เขาก็ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าสายตาของเขาดีมากสำหรับคนที่ถูกขังไว้ในความมืดเป็นเวลาหลายเดือน จนกระทั่งตำรวจค้นพบว่าเขาเป็นนักต้มตุ๋นที่เอฟบีไอต้องการตัวและจัดฉากการลักพาตัวเองทำให้เขาจนมุมในที่สุด

 

Alejandro Mario Cortes

เหล่าคนเพี้ยนผู้วางแผนลักพาตัวเอง

ในวันที่ 17 เมษายน 2018 ที่มินนิโซตา คนขับรถกวาดหิมะพบชายคนหนึ่งถูกมัดมือเท้าและปิดปากไว้ด้วยเทป ถูกทิ้งไว้ในกองหิมะ ชายคนนั้นคือ Alejandro Mario Cortes วัย 46 ปี ซึ่งอ้างว่าถูกลักพาตัว บังคับให้ขึ้นรถ และทิ้งไว้ในกองหิมะที่เขาถูกพบตัว 

เอฟบีไอถูกเรียกมาทำคดี ก่อนพวกเขาจะค้นพบว่าการลักพาตัวคือข้ออ้างให้ได้สัญชาติอเมริกา เนื่องจาก Alejandro เป็นผู้อพยพผิดกฎหมายจากเม็กซิโก และพยายามให้ตัวเองได้วีซ่าของอเมริกาในฐานะเหยื่ออาชญากรรม เขาถูกเนรเทศออกจากอเมริกาในปี 2001 และ 2010 และพยายามกลับเข้าประเทศมาอีกทั้ง 2 ครั้ง จนกระทั่งวางแผนลักพาตัวในที่สุด

 

 

Jonathon Michael Davis

เหล่าคนเพี้ยนผู้วางแผนลักพาตัวเอง

27 กุมภาพันธ์ 2018 Jonathon Michael Davis วัย 34 ปีหายตัวไปจากบ้าน จากนั้นญาติๆ ของเขาก็ได้รับข้อความที่อธิบายว่าเขาถูกลักพาตัวไปและเรียกร้องเงินค่าไถ่มูลค่า 375 ดอลลาร์ พร้อมมกับขู่ว่าจะทำร้ายเขาหากทางครอบครัวไม่ยอมจ่ายค่าไถ่ นอกจากนี้คนร้ายยังส่งรูปถ่ายของนิ้วที่หักของ Jonathon แนบมา พร้อมกับสัญญาว่าจะหักนิ้วที่เหลือถ้าพวกเขาไม่ยอมจ่าย

ครอบครัวของ Jonathon รายงานการลักพาตัวกับตำรวจซึ่งมอบคดีต่อให้นายอำเภอและเอฟบีไอ ในคืนเดียวกันนั้น ตำรวจก็พบร่องรอยของเขาที่คาสิโนในทัลซา ซึ่งเขาเล่นพนันอยู่ การติดตามตัว Jonathon เป็นเรื่องง่ายสำหรับตำรวจ เพราะข้อความถูกส่งมาจากโทรศัพท์ของเขา ตำรวจจึงแกะรอยจากโทรศัพท์ ส่วนรูปนิ้วที่หักก็มาจากกูเกิล ซึ่งเป็นรูปแรกที่แสดงขึ้นมาเมื่อค้นหาคำว่า "นิ้วหัก"

 

Rogelio Andaverde

เหล่าคนเพี้ยนผู้วางแผนลักพาตัวเอง

4 ตุลาคม 2013 Rogelio Andaverde อยากออกไปพบกับเพื่อนในยามค่ำคืน แต่กลัวว่า Maria Hernandez ภรรยาจะไม่อนุญาตเขาจึงตัดสินใจวางแผนลักพาตัวเอง

Rogelio อยู่บ้านกับภรรยาในค่ำคืนที่เกิดเหตุ มีชาย 2 คนบุกเข้ามาในบ้านและจับตัวเขาไป Maria คิดว่าเขาถูกลักพาตัวจริงๆ จึงโทรเรียกตำรวจ ตำรวจจึงได้จัดทีมค้นหาขึ้นพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์ แต่ก็ไม่มีใครพบตัวเขาแต่อย่างใด

Rogelio กลับมาบ้านใน 2 วันต่อมา เขาบอกกับภรรยาว่าผู้ลักพาตัวเขาเกิดเปลี่ยนใจและปล่อยตัวเขาออกมา ตำรวจพบว่าเรื่องราวที่เขาเล่าดูแปลกๆ จึงทำการสืบสวนเพิ่มเติม ก่อนจะพบว่าการลักพาตัวถูกจัดฉากขึ้นเพื่อให้เขาได้ไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ นั่นเอง

 

Cr.listverse

 

 

Moodymuay

Moodymuay


Moodymuay

Moodymuay

A STORYTELLER AND CONTENT EXPLORER