Black Summer (Netflix) ซีรีย์ซอมบี้ฉบับใหม่ที่แทบหยุดหายใจ

  Apr 18, 2019   eyeicon  2818 view   QueenA

imdb


ปัจจุบันนี้มีหนังหรือซีรีย์แนวซอมบี้ แนวเอาตัวรอด ออกมามากมายหลายเรื่อง ซึ่งซีรีย์ที่ดังๆ ตอนนี้ก็จะมี The Walking Dead, i-Zombie, Z-Nation, Fear The Walking Dead  และซีรีย์ซอมบี้เกาหลี Kingdom ที่ทำออกมาได้ดีเกินคาด ซีรีย์ Black Summer จาก Netflix เป็นซีรีย์ซอมบี้อีกเรื่องหนึ่งที่สนุกแทบหยุดหายใจ ด้วยความแตกต่างด้านการเล่าเรื่อง ทำให้หลายคนให้คะแนนซีรีย์เรื่องนี้ค่อนข้างสูง

 

เรื่องย่อ
การเอาชีวิตรอดของคนแปลกหน้ากลุ่มหนึ่ง จุดหมายของพวกเขาคือสนามกีฬาที่พวกเขาเชื่อว่าปลอดภัยจากเหล่าคนตายคืนชีพ โดยเนื้อเรื่องหลัก จะเป็นเรื่องของครอบครัวหนึ่งที่ต้องพลัดพรากจากลูกสาวขณะที่กำลังตรวจคนเพื่อขึ้นรถ ด้วยสถานการณ์คับขัน ทำให้ลูกสาวได้ขึ้นรถไปเพียงลำพังกับกลุ่มทหารและคนแปลกหน้า ฝั่งคุณแม่ตะโกนบอกให้ลูกสาวรอเธอที่สนามกีฬาแล้ว ส่วนเธอจะพยายามเดินทางไปหาลูกเอง 

 

ความรู้สึกก่อนดู
เอาจริงๆ นะ ถ้าก่อนดูหนัง มานั่งอ่านเรื่องย่อนี่ คือคิดว่าพล็อตมันตลาดมากๆ ไม่ใครก็ใครก็เป็นฝ่ายตามหาใคร คือมันซ้ำจนเราเดาทางได้แหละ 

 

ความรู้สึกหลังดู
สนุก ลุ้น ระทึก ดูไปแบบหายใจแทบไม่ทั่วท้อง แอบด่าตัวละครแต่ก็ยังแอบเชียร์ให้รอดตาย นี่มันซีรีย์ที่พล็อตก็เดิมๆ แต่การเล่าเรื่องที่ต่างไป ทำให้หนังแปลกใหม่และเราตื่นเต้นกับมันไปตั้งแต่ต้นจนจบตอน 

 

imdb

 

 

จุดอ่อนที่เห็นได้ชุด
หนังแนวซอมบี้ก็มีมาไม่น้อย ทำให้การสร้างหนังหรือซีรีย์ซอมบี้นั้น มักวนไปวนมาอยู่ที่พล็อตเดิมๆ และตัวซอมบี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรใหม่ ซอมบี้เดินช้ามีแล้ว ซอมบี้วิ่งเร็วก็มีแล้ว สำหรับซอมบี้ของเรื่องนี้นั้น ก็จัดว่าทำออกมาได้น่ากลัวดีนะ เพราะมันไล่ล่าแบบไม่รู้จักเหนื่อย แถมยังฉลาดด้วย ตามไม่เลิก กลายร่างเร็วถือว่าออกมาดีอยู่

 
และในส่วนของตัวละคร แอบไม่เมคเซนส์ในบางจุด มีการเสนอด้านมืดของคน เห็นแก่ตัว เอาตัวเองรอด ปากบอกว่าเป็นคนดี แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครเลวหรือบริสุทธิ์ 100% และส่วนใหญ่คนดีมักตายก่อนเสมอ หนังส่วนใหญ่ก็นำเสนอตัวละครในแง่ดังกล่าวมาตลอด

ส่วนจุดที่ไม่เมคเซนส์ คือทำไมใช้ปืนกันเป็นไวจัง ? ดูเหมือนการใช้ปืนมันง่าย อย่างกับซ้อมยิงปืนมาอย่างช่ำชองอย่างงั้นแหละ นี่เป็นจุดที่ทำให้เรารู้สึกขัดใจในหนังมาก อีกทั้งตัวละครสาวชาวเกาหลีที่พูดอังกฤษไม่ได้เลย ทำไมนางจึงสื่อสารกับคนอื่นได้อย่างเข้าใจทั้งที่พูดเป็นเกาหลี แม้เราจะชอบตัวละครตัวนี้เพราะทำให้นึกถึง เกล็น The Walking Dead แต่มันก็ดูขัดๆ กันอยู่นะ 

 

imdb

 

มาพูดถึงจุดที่เราชอบกันบ้าง
การเล่าเรื่อง คือจุดเด่นของเรื่องนี้ 
อย่างที่เราบอกว่าหนังซอมบี้นั้นเริ่มวนไปวนมาไม่แตกต่างแล้ว ซึ่งเรื่องนี้เปิดเรื่องมาด้วยฉากที่ทุกคนเก็บของวิ่งออกจากบ้านอย่างเร่งรีบ ดูเหมือนเป็นฉากการหนีที่แสนธรรมดา แต่ดูไปเรื่อย ๆ จะพบว่า หนังมีการเล่าเรื่องเป็นองก์ โดยแต่ละองก์นี่จะเป็นเหตุการณ์ของอีกตัวละครหนึ่งในช่วงเวลาเดียวกันว่าใครไปทำอะไรที่ไหน จบเหตุการณ์นี้ก็ไปเริ่มองก์ต่อไปโดยเป็นอีกตัวละคร ซึ่งรู้สึกให้ความตื่นเต้นได้มากขึ้น กว่าการเล่าเรื่องแบบหนังทั่วไป และด้วยความที่เนื้อหามันเกี่ยวกับซอมบี้ด้วยแหละ เลยยิ่งทำให้ทุกตอนของหนังต้องลุ้นอยู่ตลอดเวลา 

 

ชอบตรงที่หนังสร้างสถานการณ์ที่เรียบง่าย แต่กลับทำให้เราลุ้นใจหายใจคว่ำ ยิ่งแต่ละเหตุการณ์ของแต่ละคนนั้น มันมีความพีคในตัวมันเองตลอด ซึ่งพอเริ่มองก์ใหม่ มันก็จะต้องมีเรื่องให้เราลุ้น หรือไม่ก็ให้เราคิดตามได้ อย่างการแอบซอมบี้ในที่ๆ หนึ่ง ที่ดูเหมือนจะง่าย แต่พอมีซอมบี้มันกลายเป็นยากเพราะต้องหาทางหนีทีไล่ และยิ่งยากขึ้นไปอีกสำหรับคนขี้ขลาดที่ไม่มีทักษะการต่อสู้อะไร สติก็แทบจะเตลิด ตอนดูนั้นรู้สึกลุ้นและอึดอัดมากๆ แม้ในใจจะแอบด่าแอบบ่นว่าทำไมแกไม่ทำแบบนี้ แบบนั้น แต่ถ้าลองเอาตัวเองไปอยู่จุดนั้นก็คงแย่เหมือนกันแหละ 

 

 

 

imdb

 

ด้านความสัมพันธ์ของตัวละคร ปกติหนังทั่วไป จะต้องมีตัวละครที่รู้จักกันบ้าง พ่อแม่ คู่รัก เพื่อนสนิท พี่น้อง แม่ลูก พ่อลูก อะไรทำนองนี้ แต่สำหรับเรื่องนี้ ตัวละครส่วนใหญ่  เป็นคนแปลกหน้าที่อยู่ๆ ก็มารวมกลุ่มกันแบบงงๆ แต่ก็สามัคคีกันได้ และเมื่อเวลาผ่านไปต่างก็ช่วยเหลือกันดี แต่มันก็มีจดหักมุมเล็กน้อยที่ทำให้เราอึ้งอยู่เหมือนกัน คงเป็นเพราะการเป็นคนแปลกหน้าไม่ได้ผูกพันกันมากมาย เลยทำให้ตัวละครสามารถทำอะไรลงไปได้โดยไม่คำนึงถึงเรื่องราวดีๆ ที่ผ่านมา  

 

อีกทั้งในเรื่องพัฒนาการของตัวละคร โดยทั่วไป หนังจะสร้างตัวละครอ่อนแอขึ้นมาก่อน แล้วค่อยแกร่งและเก่งขึ้นทีหลัง ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็เป็นแบบเดียวกันนะ แต่มันจะมีตัวละครหนึ่งที่ยังไงก็เหมือนเดิม ครั้นพอจะเริ่มกล้าก็ต้องมีเหตุการณ์มาตลบหลังทำให้เข้าสู่อีหรอบเดิม แอบเป็นตัวละครที่โง่ แต่เราก็ลุ้นให้เขารอดนะ

 

ในส่วนของแง่คิดของเรื่องนี้ ก็สอนเราได้หลายอย่าง หลักๆ คือการไว้ใจและการเอาตัวรอด ไม่มีตัวละครตัวไหนเป็นคนดี 100% แต่ทุกคนก็ต้อสู้เพื่อเอาชีวิตให้รอด และการเป็นคนดีเกินไปมักอยู่ได้ไม่นาน การเลวแบบสุดโต้งก็โดนกำจัดได้เช่นเดียวกัน

 

สรุปแล้ว Black Summer ขอให้คะแนนที่ 8/10 ซีรีย์มี 8 ตอน ตอนละ 20-40 นาที กำลังดี ใช้เวลา 1 วันดูก็จบ คิดว่าต้องมีภาค 2 ต่อแน่นอน หวังว่าจะเป็นเรื่องราวฝั่งของลูกสาวที่ต้องขึ้นรถไปกับคนแปลกหน้าบ้าง

 

 

QueenA

QueenA


QueenA

QueenA

ชอบดูหนัง เล่นเกม ทำขนม แต่งหน้า รวมอยู่ในร่างนี้ เอ๋อนิดๆ ซุ่มซ่ามหน่อยๆ พอให้มีรอยยิ้ม แต่ไม่ไร้สมอง
ชอบเขียนแทนพูด (แต่เดี๋ยวนี้ใช้พิมพ์เอา) พร้อมรังสรรค์เรื่องราวดีๆ มาให้สาวๆ อัพเดทตัวเองให้สวย เก่ง และมั่นใจแบบเป็นตัวเอง ไปพร้อมกัน