แนะนำหนัง 13 Going On 30 เมื่อวัยผู้ใหญ่ไม่ได้เป็นอย่างที่ฝัน

  Jan 17, 2019   eyeicon  1758 view   QueenA

 

 

มีหนังมาแนะนำกันอีกแล้วค่ะ ยังไม่วายเขียนเกี่ยวกับหนังที่มีกิมมิคลูกเล่นเกี่ยวกับเวลา แต่เรื่องนี้จะต่างออกไปนิดนึง เพราะปกติจะเจอแต่หนังย้อนเวลา แต่ “13 Going On 30” (2004) ดันเป็นการข้ามเวลามาอนาคตซะงั้น

 

เรื่องย่อมีอยู่ว่า

เจนน่า ในวัย 13 ปี ที่อยากโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ เบื่อหน่ายครอบครัวที่แสนซื่อ และเพื่อนสนิทบ้านติดกันอย่าง “แม็ต” เพราะอยากเป็นที่ยอมรับของแก๊งคนดังและหนุ่มฮอตที่เธอแอบชอบ เธอยอมเป็นอีกคนเพื่อหวังให้ทุกคนยอมรับ และได้ชวนกลุ่มคนเหล่านั้นมางานวันเกิด แต่มันกลับลงเอยที่เธอถูกแกล้ง เธออธิษฐานขอให้เธอโตเป็นสาว 30 สวยสะพรั่ง ! และเธอก็พบว่า เธอตื่นขึ้นมาในอพาร์ทเมนต์หรูกลางเมือง แม้ร่างกายเป็นผู้หญิงวัย 30 มีหน้าที่การงานที่ดี และเป็นที่ยอมรับของทุกๆ คน ทุกอย่างเหมือนจะลงตัวตามที่เธอต้องการแล้ว แต่เธอกลับพบว่าตัวเธอไม่ใช่คนดีอย่างที่เธออยากจะเป็น แถมไม่มีเพื่อนแท้เหลือเลยสักคน สิ่งที่สำคัญที่สุดที่หายไปก็คือ “แม็ต” เพื่อนสนิท ที่เธอรู้มาว่า เธอตัดขาดกับเขา มาเป็นเวลานาน เจนน่าต้องหาทางแก้สถานการณ์ เพื่อให้ความสัมพันธ์ของเธอและแม็ตกลับมาเป็นเหมือนเดิม ก่อนที่เขาจะเข้าประตูวิวาห์กับผู้หญิงคนอื่น

 

ความรู้สึกผู้เขียน

ขอบอกดูเรื่องนี้ประมาณ 4-5 รอบได้ และดูในช่วงวัยที่แตกต่างกันด้วย ครั้งแรกที่ดู ผู้เขียนดูในวัยเรียน ตอนแรกรู้สึกว่าสนุกดี ยังไม่อินมาก แต่พอช่วงวัยทำงาน กลับมาดูอีกครั้ง กลับรู้สึกว่าหนังทำไมมันแอบดราม่าจัง ยิ่งเพลงและความหมายของเพลงนั้นลึกซึ้งมาก  

 

 

มาพูดถึงตัวหนังกันบ้าง หนังเป็นสไตล์แนว Rom-Com ทั่วไป แต่แตกต่างตรงที่พล็อตเรื่องนี้ มันไม่ใช่การย้อนเวลา แต่เป็นการข้ามเวลาจากอดีตมาอนาคต มีฉากตลกๆ กุ๊กกิ๊ก ให้อมยิ้ม เพราะนางเอกของเราเป็นเด็ก ถึงแม้ในร่างผู้ใหญ่วัย 30 ก็มีความรู้สึก ความคิด จิตใจ ยังคงเป็นเด็ก 13 การกระทำและคำพูดก็มีความไร้เดียงสา และแก่นเซี๊ยวตามประสาเด็ก ซึ่งเมื่อเด็ก 13 ไปอยู่ในร่างคน 30 มันก็เหมือนผู้ใหญ่แอ๊บเด็กคนนึงนั่นแหละ ซึ่งมันทำให้หนังน่ารักและตลกในความเปิ่นของนางเอกจริงๆ

 

ในส่วนของนักแสดงของเรา ก่อนจะดูหนัง ผู้เขียนติดภาพจำตอนนางเอก เจนนิเฟอร์ กาเนอร์ เล่นหนังบู๊มาก่อน เลยทำให้รู้สึกว่าเธอหน้าไม่หวานเท่าไร แต่พอดูไปแล้วนางเอกก็แสดงออกมาได้น่ารัก และมีความอ่อนหวานอยู่เหมือนกัน ส่วนพระเอก ได้ มาร์ค รัฟฟาโร มาแสดง คือเหมือนจะไม่หล่อ แต่ก็น่ารักดี ในหนังพี่มาร์คยังหนุ่มละอ่อนมากๆ เมื่อเทียบกับบท บรูซ แบนเนอร์หรือฮัค ใน Avenger คือพี่เขาไม่ได้เล่นได้แต่หนังแอ็คชั่นนะคะ พี่เขาก็เล่นหนังรักมุ้งมิ้งได้ มีเสน่ห์ไม่น้อยเลย

 

 

 

โตเป็นผู้ใหญ่ ชีวิตไม่ได้สวยหรูอย่างที่ฝัน

มีถึงสิ่งที่ทำให้ผู้เขียนชอบเรื่องนี้มากๆ ก็คือ แง่คิดจะหนังเรื่องนี้ต้องการจะสื่อออกมา ผู้เขียนเชื่อว่า ตอนเด็กๆ ทุกคนต้องอยากโตเป็นผู้ใหญ่ เพราะวัยเด็ก จะทำอะไรก็ลำบาก ไม่มีทั้งเงิน ไม่มีทั้งอิสระ

 

 

 

 

ตั้งแต่วัย 13 เจนน่าเป็นคนทะเยอทะยาน อยากเป็นที่ยอมรับจนยอมกลืนตัวเองเพื่อเข้าสังคมให้ได้ จนยอมทำทุกอย่างเพื่อเข้าสังคมที่คอยเอารัดเอาเปรียบ และเลือกที่จะละเลยความหวังดีจากครอบครัว และเพื่อนที่เคียงข้างอย่างแม็ต แต่เมื่อเธอได้มาลองใช้ชีวิตตอนโตเป็นผู้ใหญ่ ผลจากความทะเยอทะยาน ทำให้เธอมีหน้าที่การงานตามความฝัน เป็นที่ยอมรับ แต่เธอกลับไม่เหลือเพื่อนสนิท แถมลูกน้องก็ชังขี้หน้า และเธอยังพบว่าตัวเธอในวัยผู้ใหญ่ ทำบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งตอนนั้นเธอไม่เข้าใจว่าทำไมเธอจึงทำเรื่องแย่ๆ ได้ขนาดนี้ 

 

ลองคิดดูเล่นๆ ถ้าตัวเราในวัยเด็กมารู้จักเราในปัจจุบัน ตัวเราในวัยเด็กจะชอบตัวเองในวัยผู้ใหญ่มั้ยนะ ?
เมื่อผลของการกระทำมันออกมาแบบนี้ เธอก็ต้องยอมรับว่า ทั้งหมดทั้งมวลมันเกิดจากการตัดสินใจของเธอเอง


ซึ่งตัดภาพกลับมาในชีวิตจริงของคนเรา บางครั้งเราก็ละเลยมิตรภาพข้างกาย เพราะมัวแต่ไปวิ่งตามกระแสสังคมให้เป็นที่ยอมรับ จนกระทั่งเวลาได้คัดกรองคนออกไป ถึงเวลานั้น เราจึงเห็นว่าใครกันที่เป็นเพื่อนแท้ที่จริงใจกับเราที่สุด

 

 

 

เวลาคือสิ่งที่เสียแล้วเสียเลย ย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ นางเอกของเรายังมีโอกาสได้แก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำพลาด นั่นเพราะมันคือภาพยนตร์ ชีวิตจริงของเราไม่สามารถแก้ไขได้เป็นครั้งที่ 2 ดังนั้นอย่าลืมใส่ใจครอบครัว และคนรอบข้าง ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีค่า โดยเป็นตัวของตัวเอง เพราะเวลาไม่สามารถย้อนกลับได้เหมือนในหนัง เราคงไม่อยากมานั่งร้องไห้เสียดายกับวันเวลาที่ผ่านไปแน่นอนค่ะ

 

 

 

อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบในหนังเรื่อง 13 Goin On 30 คือเพลง Vienna ของ Billy Joel หรือในเวอร์ชั่นใหม่ที่ Ariana Grande ที่ผู้เขียนชอบมาก เพลงมีท่วงทำนองแปลกๆ แต่ดนตรีนั้นเพราะ ยิ่งรู้ความหมายของเพลงยิ่งซึ้ง โดยรวมแล้ว Vienna มันหมายถึงความฝัน และความปรารถนา และในส่วนของเนื้อเพลง บางท่อนนั้นมันก็กินใจเหลือเกิน อย่าง

 “And you know that when the truth is told 
That you can get what you want or you can just get old ”
เมื่อความจริงปรากฏขึ้น คุณจะได้สิ่งที่คุณต้องการ หรือไม่ก็แค่แก่ตัวลงไปทุกวัน

 

“You've got your passion, you've got your pride

But don't you know that only fools are satisfied?

Dream on, but don't imagine they'll all come true

When will you realize, Vienna waits for you?”

คุณรู้สึกลุ่มหลง คุณรู้สึกภูมิใจ แต่คุณรู้มั้ยว่ามีแต่คนโง่เท่านั้นที่พอใจ

ฝันต่อไปเถอะ แต่อย่าหวังว่าทั้งหมดจะกลายเป็นความจริง

เมื่อใดที่คุณจะรู้ว่า ความสำเร็จมันรอคุณได้เสมอ
 

 

 

ต้องขออภัยหากแปลผิดนะคะทุกคน แต่ยังไงถ้ามีความหมายที่ถูกต้องก็สามารถแจ้งผู้เขียนได้เลยน้า

เห็นได้ว่าเนื้อหาเพลงนี้นั้นช่างเหมาะกับหนังเรื่องนี้จริงๆ ถ้าอยากอินไปด้วยกัน ก็ไปหาหนัง 13 Going On 30 มาดูโดยด่วนค่า

 

 

 

QueenA

QueenA


QueenA

QueenA

ชอบดูหนัง เล่นเกม ทำขนม แต่งหน้า รวมอยู่ในร่างนี้ เอ๋อนิดๆ ซุ่มซ่ามหน่อยๆ พอให้มีรอยยิ้ม แต่ไม่ไร้สมอง
ชอบเขียนแทนพูด (แต่เดี๋ยวนี้ใช้พิมพ์เอา) พร้อมรังสรรค์เรื่องราวดีๆ มาให้สาวๆ อัพเดทตัวเองให้สวย เก่ง และมั่นใจแบบเป็นตัวเอง ไปพร้อมกัน