เรื่องราวของอาร์ เคลลี กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อเหล่าผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อของเขา ออกมาบอกเล่าเรื่องราวที่พวกเธอต้องเผชิญผ่านสารคดี Surviving R Kelly จนปลุกให้คนทั่วโลกและศิลปินดังต่างร่วมกันบอยคอตอาร์ เคลลี เพราะพฤติกรรมสุดเลวร้ายของเขา และนี่คือไทม์ไลน์ข้อกล่าวหา และการฟ้องร้องมากมายที่เขาต้องเผชิญมาตลอดหลายสิบปี 

 

ปี 1994  อาร์ เคลลีแต่งงานกับอาลียาห์

ในขณะนั้นเคลลีซึ่งมีอายุ 27 ปี แต่งงานกับอาลียาห์ซึ่งมีอายุเพียง 15ปีเท่านั้น ทั้งคู่จัดพิธีแต่งงานแบบลับๆ ในชิคาโก จนกระทั่งไวบ์ แมกกาซีน ค้นพบในภายหลังว่าอาลียาห์ได้โกหกในทะเบียนสมรสว่าเธอมีอายุ 18 ปี และการแต่งงานของทั้งคู่ก็สิ้นสุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ 1995 

ตลอดอาชีพการเป็นนักร้อง อาลียาห์มักจะหลบเลี่ยงคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอและเคลลีเสมอ ในขณะที่เคลลีเองก็แทบไม่พูดถึงอาลียาห์เช่นกัน แม้เธอจะเสียชีวิตไปในเหตุการณ์เครื่องบินตกในปี 2001 ก็ตาม จนกระทั่งในปี 2016 เคลลีกล่าวถึงความสัมพันธ์กับอาลียาห์ว่าเป็น"เพื่อนที่สนิทมากๆ" แต่ปฏิเสธที่จะพูดถึงการแต่งงานของพวกเขาเพราะ "ผมจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กับใครเพราะความเคารพที่มีต่ออาลียาห์ และพ่อแม่ของเธอ ซึ่งขอร้องผมเป็นการส่วนตัวไม่ให้พูดถึงมัน"

 

ปี 1996 ถูกฟ้องร้องในข้อหาสร้างความทุกข์ทางอารมณ์ 

ทิฟฟานี ฮอว์กินส์ฟ้องเคลลีในข้อหา "การบาดเจ็บส่วนบุคคลและความทุกข์ทางอารมณ์" ที่เกิดขึ้นในระยะเวลา3ปีที่พวกเขาคบกัน ในเอกสารของศาล ทิฟฟานีกล่าวว่าเธอเริ่มมีเพศสัมพันธ์กับเคลลีในปี 1991 ในขณะที่เธอมีอายุเพียง 15ปี และเขามีอายุ 24 ปีเท่านั้น และความสัมพันธ์นั้นก็จบลงในเวลา 3 ปีต่อมา ทิฟฟานีเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 10 ล้านดอลลาร์ แต่หลังจากไกล่เกลี่ยกันนอกศาลเธอก็ยอมรับเงินที่ 250,000 ดอลลาร์แทน

 

ปี 2001 ถูกฟ้องร้องโดยนักศึกษาฝึกงาน

เทรซี่ แซมพ์สันฟ้องอาร์ เคลลี โดยกล่าวหาว่าเขาชักนำเธอ "เข้าสู่ความสัมพันธ์ทางเพศที่ไม่เหมาะสม" ตอนที่เธอมีอายุเพียง 17ปี ในขณะนั้นเธอเป็นอดีตนักศึกษาฝึกงานที่อีพิก เรคคอร์ด เธออ้างว่าเธอถูก "ปฏิบัติเหมือนวัตถุทางเพศส่วนตัวของเขาและถูกทิ้งขว้าง" "เขามักจะพยายามควบคุมทุกๆ แง่มุมในชีวิตของฉันบ่อยๆ รวมถึงคนที่ฉันจะไปพบและสถานที่ที่ฉันจะไป" ท้ายที่สุดคดีถูกตัดสินนอกศาลด้วยตัวเลขที่ไม่เปิดเผย

 

เมษายนและพฤษภาคม 2002 การฟ้องร้องอีก 2 คดี

เคลลี ถูกฟ้องเป็นครั้งที่ 3 โดยแพทริซ โจนส์ หญิงสาวชาวชิคาโกผู้อ้างว่าเขาทำให้เธอตั้งท้องตอนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และบังคับให้เธอทำแท้ง

ต่อมามอนทีน่า วูดส์ ก็ยื่นฟ้องเคลลีเป็นคดีที่ 4 โดยอ้างว่าเขาแอบถ่ายวีดีโอเทปในขณะที่ทั้งคู่กำลังมีเพศสัมพันธ์กันโดยที่เธอไม่รู้ตัวและเทปก็ถูกนำไปเผยแพร่ว่าเป็น "เซ็กซ์เทปของอาร์ เคลลี" และถูกนำไปขายโดยใช้ชื่อว่า "อาร์ เคลลี ทริปเปิล-เอ็กซ์" เคลลี จัดการกับทั้ง2คดีข้างนอกศาลโดยการจ่ายเงินเป็นตัวเลขที่ไม่เปิดเผย เพื่อทำข้อตกลงไม่เปิดเผยเช่นกัน

 

 

มิถุนายน 2002 ถูกจับในข้อหาครอบครองสื่ออนาจารเด็ก

เคลลี จับกุมด้วยข้อหา 21 ข้อหาทั้งการสร้างสื่ออนาจารเด็ก, เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์, ออรัลเซ็กซ์, การปัสสาวะ และการกระทำทางเพศอื่น ๆ ตำรวจชิคาโกกล่าวหาว่าเคลลีบันทึกเทปการกระทำข้างต้นเอาไว้และล่อลวงผู้เยาว์ให้เข้าร่วมในกิจกรรมเหล่านั้น 

การจับกุมเคลลีเกิดขึ้นเมื่อมีบุคคลนิรนามส่งวิดีโอไปยังเดอะ ชิคาโก ซัน ไทม์ส ซึ่งพวกเขาส่งต่อให้กับตำรวจ และตำรวจก็ยืนยันว่าเทปเป็นของจริงด้วยความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชของเอฟบีไอ

เคลลี ผู้วางเงินประกัน 750,000 ดอลลาร์ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาในทันทีที่เขาให้สัมภาษณ์กับ MTV และให้การปฏิเสธในศาล คดีนี้ใช้เวลากว่า 6 ปีกว่าจะถึงการพิจารณาคดี ในระหว่างช่วงเวลานั้น เคลลีก็ปล่อยอัลบัมที่ชื่อ Trapped In The Closet ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงออกมา ท้ายที่สุดแล้วศาลก็ตัดสินว่าเคลลีไม่มีความผิด เนื่องจากไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าหญิงสาวในเทปนั้นเป็นเยาวชน

 

2002-2004  การจับกุมอีกครั้ง

เคลลีถูกแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 12 ข้อหาจากการสร้างสื่ออนาจารเด็กในฟลอริดา เขาถูกจับกุมในบ้านส่วนตัวของเขา ข้อหาเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากตำรวจยึดกล้องมาได้ระหว่างการจับกุม ซึ่งมีภาพที่แสดงให้เห็นว่าเคลลีมีเพศสัมพันธ์กับเยาวชน แต่ข้อหาก็เป็นอันตกไปเมื่อผู้พิพากษาเห็นด้วยกับทีมทนายของเคลลี ที่กล่าวว่าตำรวจไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์การค้นหาของพวกเขา

 

กรกฎาคม 2017 ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับลิทธิ

จากรายงานของ Buzzfeed กล่าวหาว่าเคลลีวางกับดักผู้หญิง 6 คนให้เข้าร่วมลัทธิเกี่ยวกับเซ็กซ์ของเขา บทความนี้กล่าวหาว่าเคลลีล่อลวงเด็กสาวที่เข้าหาเขา เพื่อขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับอาชีพทางดนตรี ก่อนจะเข้าควบคุมชีวิตของพวกเธอ โดยเขาจะสั่งว่าพวกเธอจะต้องกินอะไร, แต่งตัวแบบไหน, อาบน้ำตอนไหน, นอนตอนไหน รวมทั้งที่พวกเธอมีส่วนร่วมในการเผชิญหน้าทางเพศที่เขาบันทึกเทปเอาไว้

นอกจากนี้เคลลียังยึดโทรศัพท์ของพวกเธอและให้ใช้ได้เวลาติดต่อกับเพื่อนและครอบครัวเท่านั้น ซึ่งข้อกล่าวหาเหล่านี้มาจากอดีตลูกจ้าง3 คนของเขา และผู้ปกครองของเด็กสาวบางคน 

เคลลี่ปฏิเสธเรื่องนี้อย่างแรง และอ้างว่าหญิงสาวเหล่านี้ล้วนแล้วแต่บรรลุนิติภาวะแล้ว จอยเซลิน  ซาเวจ วัย 21 ปี ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเธอถูกกักขังไว้ "ฉันไม่ได้ถูกล้างสมองหรืออะไรแบบนั้น" แต่เธอก็ไม่ได้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเคลลีเช่นกันทนายของเคลลีกล่าวว่า เขาตื่นตระหนกและถูกรบกวนจากข้อมูลที่ถูกเปิดเผย เขาจะทำงานอย่างขันแข็งและจะไล่ตามผู้กล่าวหาเขาและลบล้างมลทินออกจากชื่อของเขา

 

2017 - 2018 เหยื่อเดินหน้าเข้าหาสื่อ 

เจอร์ฮอนดา เพซ ฉีกสัญญาที่ตกลงไว้กับเคลลีและพูดเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์กับเคลลีในขณะเป็นผู้เยาว์ ในขณะที่คิตตี โจนส์  ผู้หญิงอีกคนกล่าวว่าเขาบังคับให้เธออดข้าว และบังคับให้เธอมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น รวมทั้งทำร้ายร่างกายของเธออีกด้วย

คิตตี โจนส์ และผู้หญิงคนอื่นๆ ให้สัมภาษณ์กับสารคดีของ BBC ในเดือนมีนาคม 2018 และหนึ่งในอดีตเพื่อนและเพื่อนร่วมงานของเคลลีที่ชื่อโลเวล โจนส์ ก็กล่าวว่าเคลลีจะให้เขามองหาหญิงสาวที่ดู"เด็ก"ในงานปาร์ตี้ และอ้างว่าเขารู้ว่าเคลลีชอบ"เด็ก"

แน่นอนว่าเคลลีปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น

 

 

2018 #MuteRKelly 

แคมเปญ #MuteRKelly สร้างขึ้นเพื่อลอบบี้ค่ายเพลงที่ชื่อ RCA เพื่อให้ตัดความสัมพันธ์กับเคลลี เนื่องจากคดีต่างๆ ของเขา นอกจากนี้พวกเขายังมุ่งเป้าไปยังผู้สนับสนุนคอนเสิร์ต, ผู้ขายตั๋วคอนเสิร์ต และบริการสตรีมมิ่งทั้ง Spotify, Apple Music และ Pandora ซึ่งต่างตกลงที่จะนำเพลงของเคลลีออกจากเพลย์ลิสต์ของพวกเขา (แต่มีการเปลี่ยนใจในภายหลัง)

ในเวลาเดียวกันนั้น ทนายความ, นักประชาสัมพันธ์และผู้ช่วยส่วนตัวของเคลลีต่างก็ลาออกทั้งหมด แม้ว่าลินดา เมนช์ ทนายความของเคลลีจะกล่าวว่าการจากไปของเธอนั้น "ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาใด ๆ  ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตทางสังคมของเคลลี" ก็ตาม

เคลลียังคงดำเนินการแสดงคอนเสิร์ตต่อไป แม้จะมีการประท้วงเกิดขึ้นด้านนอกคอนเสิร์ตก็ตาม นอกจากนี้เขายังถูกถ่ายวีดีโอในขณะที่พูดถึงแคมเปญที่ต่อต้านเขาว่ามัน "สายเกินไป" 

ในขณะเดียวกันนั้น เคลลีถูกฟ้องโดยอดีตคนรักที่กล่าวว่าเขา "จงใจ" ทำให้เธอติดเชื้อด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ตัวแทนของเคลลี่กล่าวว่าเขา "ปฏิเสธการเรียกร้องและข้อกล่าวหาทั้งหมดอย่างเด็ดขาด"

นอกจากนี้เคลลียังปั่นหัวผู้คนที่วิจารณ์เขาด้วยการปล่อยเพลงที่ชื่อ I Admit (ฉันยอมรับ) ออกมา ซึ่งเป็นเนื้อหาที่สารภาพเกี่ยวกับเรื่องการนอกกายและประสบการณ์ของการถูกล่วงละเมิดของตัวเขาเอง แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาใคร่เด็กและสร้างลัทธิทางเพศ

 

2019 สารคดีที่นำไปสู่การฟ้องร้องครั้งใหม่ 

สารคดีความยาวกว่า 6 ชั่วโมงที่ชื่อ Surviving R Kelly นำเสนอข้อมูลที่ครอบคลุมข้อหากล่าวทั้งหมดที่มีต่อเคลลี สองส่วนสุดท้ายของเรื่องเป็นสิ่งที่บาดใจอย่างรุนแรง เพราะเป็นการรวมการให้ปากคำอันแสนสะเทือนใจจากผู้กล่าวหาของเขา 

เดมีเทรียส สมิท อดีตผู้จัดการทัวร์ของเขากล่าวว่า "นั่นคือสิ่งที่มันเป็น เราทำงานให้กับเขา และนี่คือสิ่งที่เขาต้องการ และนี่ก็เป็นสิ่งที่เราควรจะมอบให้เขา" 2 สัปดาห์หลังจากสารคดีออกอากาศ เคลลีก็ถูกค่ายเพลงทิ้งกลางอากาศ คอนเสิร์ตที่วางแผนไว้ในสหรัฐฯและนิวซีแลนด์ถูกยกเลิก

ในเดือนกุมภาพันธ์ ไมเคิล อเวนัทที ทนายความชื่อดังได้กล่าวว่าเขามีวีดีโอที่แสดงให้เห็นว่าเคลลีมีเพศสัมพันธ์กับเด็กหญิงวัย 14 ปี และส่งหลักฐานไปให้กับสำนักงานทนายความของ Cook County State ในชิคาโก

22 กุมภาพันธ์ เคลลีถูกแจ้งข้อหากว่า 10 ข้อหาเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้หญิง 4 คน และ 3 ใน 4 คนนั้นยังเป็นผู้เยาว์ในขณะที่เกิดเหตุ

 

 

เคลลีเข้ามอบตัวกับตำรวจในวันเดียวกันและถูกคุมขังพร้อมกับตั้งวงเงินประกันตัวที่ 1 ล้านดอลลาร์ สตีเว่น กรีนเบิร์ก ทนายความของเขากล่าวว่า "เคลลีไม่มีเงินเลยในเวลานั้น" แต่ในที่สุดเขาก็สามารถหาเงินมาได้ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ หลังจากปรากฏตัวในศาลเพื่อปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด นอกจากนี้เขายังถูกยึดพาสปอร์ต และอาวุธใดๆ ที่มี รวมทั้งห้ามติดต่อกับผู้เยาว์ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือผู้ติดต่อกับกล่าวหาในขณะที่คดียังอยู่ระหว่างดำเนินการ

ส่วนคดีความจะจบลงอย่างไร ความยุติธรรมจะเกิดขึ้นกับเหยื่อหรือไม่ คงเป็นเรื่องที่เราต้องติดตามกันอีกยาวนาน

 

Cr.BBC

 

Tags:
• R Kelly
• Surviving R Kelly
• MuteRKelly