เรื่องจริงของ Gypsy Rose Blanchard เด็กป่วยผู้สังหารแม่ตัวเอง

  Feb 14, 2019   eyeicon  13875 view   Moodymuay

Gypsy-Rose-Blanchard

 

เรื่องราวของ Gypsy Rose Blanchard กลายมาเป็นที่สนใจอีกครั้งเมื่อหลายๆ ช่องดังนำเรื่องราวชีวิตของเธอ "เด็กป่วยหนักผู้สังหารแม่ตัวเอง" มาถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์สารคดีและภาพยนตร์ ซึ่งตีแผ่เรื่องจริงที่เกิดขึ้นเบื้องหลังการฆาตกรรมสุดช็อค

 

Gypsy-Rose-Blanchard
Mommy Dead and Dearest, Love You To Death, The Act


จากภาพที่ทุกคนได้เห็นคือเด็กสาวที่ชื่อ Gypsy ผู้ป่วยโรคมะเร็ง, กล้ามเนื้อเสื่อม และโรคอื่นๆ อีกหลายชนิด แต่ยังคงยิ้มได้ในทุกๆ โอกาสที่มี และมีแม่ที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ลูกสาวคนนี้ได้ในทุกสิ่งที่เธออยากได้ ทั้งคู่ดูเป็นภาพที่สร้างแรงบันดาลใจและสร้างความหวังให้กับคนมากมาย

แต่เมื่อ Dee Dee เสียชีวิตลงด้วยการถูกทุบตีจนเสียชีวิตในบ้านของเธอเอง โดยที่ลูกสาวผู้ป่วยหนักของเธอหายไปจากบ้าน ทิ้งให้ทั้งชุมชนเกิดความโกลาหลเพราะไม่มีทางที่หญิงสาวที่ป่วยหนักจะเอาชีวิตรอดได้โดยลำพัง พวกเขาต่างก็คิดกันว่า หากผู้ร้ายที่สังหาร Dee Dee เป็นผู้ลักพาตัว Gypsy ไปล่ะ?

มีคำสั่งให้ออกค้นหา Gypsy อย่างเร่งด่วนและเธอก็ถูกพบตัวเพียง 1 วันหลังจากนั้น แต่ Gypsy ที่ถูกพบกลับไม่ใช่หญิงสาวคนเดียวกับที่หายไป แทนที่จะหัวล้าน ,ผอม และนั่งวีลแชร์ ตำรวจกลับพบหญิงสาวที่แข็งแรง เดินและกินอาหารได้ด้วยตัวเอง ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับภาพแม่-ลูกแสนรักในทันที หญิงสาวคนนี้จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงข้ามคืนได้อย่างไร? หรือเธอไม่เคยป่วยมาก่อน? และที่สำคัญที่สุด เธอเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม Dee Dee หรือเปล่า?

 

 

วัยเด็กของ Gypsy 

Gypsy-Rose-Blanchard

ตอนที่ Gypsy อยู่ในวัยแบเบาะ Dee Dee พาเธอไปโรงพยาบาล เพราะเชื่อว่าเธอกำลังทุกข์ทรมานจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ แม้จะไม่มีสัญญาณของโรคเลยก็ตามแต่ Dee Dee ก็ยังคงเชื่ออย่างนั้น และในที่สุดก็ตัดสินด้วยตัวเองว่า Gypsy มีความผิดปกติของโครโมโซมที่ไม่สามารถระบุได้ และหลังจากนั้นเธอก็จับจ้องลูกสาวด้วยสายตาราวกับเหยี่ยว เพราะกลัวหายนะที่มาถึงได้ทุกเมื่อ

เมื่อ Gypsy อายุได้ประมาณ 8 ขวบ เธอก็เกิดอุบัติเหตุตกจากมอเตอร์ไซต์ของคุณตา Dee Dee พาเธอไปโรงพยาบาลทันที Gypsy ได้รับการรักษาแผลขีดข่วนเล็กน้อยตรงหัวเข่า แต่ Dee Dee เชื่อว่าอุบัติเหตุในครั้งนี้ส่งผลร้ายแรงกว่านั้น เธอต้องได้รับการผ่าตัดถ้าอยากจะเดินได้อีกครั้ง และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Dee Dee ก็ตัดสินใจว่าเธอจะต้องอยู่บนรถเข็นต่อไปเพื่อไม่ให้เข่าของเธอเลวร้ายไปกว่าเดิม

 

จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรม

Gypsy-Rose-Blanchard

Dee Dee พาลูกออกมาจากบ้านของพ่อแม่ทันทีที่พวกเขาเริ่มถามถึงอาการของ Gypsy พวกเธอย้ายมาอยู่ในอพาร์ทเม้นทรุดโทรม และจ่ายค่าเช่าด้วยเงินช่วยเหลือคนพิการซึ่งได้มาจากความเจ็บป่วยของ Gypsy 

หลังจากพาลูกไปยังโรงพยาบาลในนิวออร์ลีนส์ เธอก็อ้างว่านอกจากความผิดปกติของโครโมโซมและกล้ามเนื้อเสื่อม Gypsy ยังทุกข์ทรมานจากการสูญเสียการได้ยิน, การมองเห็น และอาการชัก ในขณะที่การทดสอบไม่ได้แสดงให้เห็นถึงโรคภัยไข้เจ็บใดๆ แต่ Dee Dee ยังคงอ้างว่าลูกของเธอป่วยจริง อย่างไรก็ตามแพทย์ได้สั่งยาต้านอาการชักและยาแก้ปวดทั่วไปให้พวกเธอเท่านั้น

ต่อมาในปี 2005 เฮอร์ริเคนแคทรีนาบังคับให้ Gypsy และ Dee Dee ต้องย้ายไปที่รัฐมิสซูรี และที่นั่นทั้งคู่ก็กลายเป็นคนดังในทันที พวกเธอทำตัวราวกับเป็นผู้ชนะในการเรียกร้องสิทธิ์เพื่อความเจ็บป่วยและความพิการ หลายองค์กรยื่นมือเข้าช่วยเหลือ องค์การที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติสากล ช่วยสร้างบ้านให้พวกเธอพร้อมกับทางลาดสำหรับรถเข็นและอ่างน้ำร้อน หลังจากนี้องค์กร Make-A-Wish ยังส่งพวกเขาไปเที่ยวทีวอลต์ดิสนีย์เวิลด์รีสอร์ต พร้อมกับบัตรผ่านเข้าหลังเวทีที่คอนเสิร์ตของมิแรนด้า แลมเบิร์ตอีกด้วย

 

คำโกหกที่ปิดไม่มิด

Gypsy-Rose-Blanchard

ในขณะเดียวกันนั้น ความสนใจที่พวกเขาได้รับผ่านมูลนิธิต่างๆ ได้ดึงดูดความสนใจของแพทย์ทั่วประเทศเช่นกัน ในไม่ช้าก็มีผู้เชี่ยวชาญติดต่อไปยัง Gypsy และ Dee Dee ว่าพวกเขาจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง นักประสาทวิทยาเด็กที่ชื่อ Bernardo Flasterstein ได้เสนอให้พวกเธอเข้ามาพบกับเขาที่คลีนิก และเมื่อพวกเขามาถึง Bernardo ก็พบกับบางสิ่งที่ทำให้เขาตกใจ ไม่ใช่แค่เฉพาะโรคกล้ามเนื้อเสื่อมเท่านั้น แต่ Gypsy ไม่ได้ป่วยเป็นอะไรเลย!

เมื่อ Bernardo กล่าวกับผู้เป็นแม่ว่า "ผมไม่เห็นเหตุผลใดๆ เลยว่าทำไมเธอถึงไม่เดิน" Dee Dee ก็ปัดเขาไปให้พ้นทาง เขาจึงเริ่มโทรหาแพทย์ในนิวออร์ลีนส์ทันที ถึงแม้ว่า Dee Dee จะอ้างว่าเฮอร์ริเคนได้พัดข้อมูลทางการแพทย์ของ Gypsy หายไปทั้งหมด แต่ Bernardo ก็สามารถหาแพทย์ที่ยังมีบันทึกเก็บไว้ได้ หลังจากพูดคุยกันและได้รับการยืนยันอีกครั้งว่า Gypsy เป็นเด็กที่มีสุขภาพดี เขาก็เริ่มสงสัยว่าความเจ็บป่วยที่แท้จริงอาจเกิดจาก Dee Dee ไม่ใช่ลูกของเธอ แต่ที่ Bernardo ไม่รู้ก็คือ Gypsy ก็เริ่มจะสงสัยในสิ่งเดียวกันเช่นกัน

 

ความจริงเริ่มจะถูกเปิดเผย 

Gypsy-Rose-Blanchard

ในปี 2010 แม้ Dee Dee จะบอกกับทุกๆ คนว่า Gypsy อายุ 14 ปี แต่จริงๆ แล้วเธออายุ 19 ปี เธอรู้ว่าเธอไม่ได้ป่วยและรู้มาซักพักแล้ว และนับตั้งแต่นั้นเธอก็พยายามหลบหนีจากแม่ของเธอ มีค่ำคืนหนึ่งเธอมาปรากฏตัวที่ประตูบ้านของเพื่อนบ้าน เธอยืนด้วยเท้าทั้ง 2 ข้างของเธอ ขอร้องให้พาเธอไปโรงพยาบาล แต่ Dee Dee รีบเข้ามาแทรกแซงและให้คำอธิบายเพื่อเอาตัวรอด ด้วยความสามารถที่เธอฝึกฝนมานานหลายปีจึงทำให้ทุกคนเชื่ออย่างไม่สงสัยใดๆ

เมื่อไหร่ก็ตามที่ Gypsy เริ่มหลบหนี, เป็นตัวของตัวเอง หรือบอกว่าเธอไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆ ที่ทุกข์ทรมานจากโรคร้าย Dee Dee ก็จะเข้ามาและอธิบายว่าสติของเธอสับสนจากความเจ็บป่วย หรือไม่ก็ยาที่กินทำให้เธอไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป และเนื่องด้วยธรรมชาติที่น่ารักและความผูกพันธ์ที่สร้างแรงบันดาลใจของทั้งคู่ ผู้คนจึงเชื่อเรื่องราวที่ Dee Dee สร้างขึ้น

 

 

วางแผนฆาตกรรม

Gypsy-Rose-Blanchard

หลังจากเหตุการณ์ที่หน้าประตูของเพื่อนบ้าน Gypsy เริ่มใช้อินเตอร์เน็ตหลังจาก Dee Dee เข้านอน เพื่อคุยกับเพื่อนชายในห้องแชท และเมื่อถูกจับได้แม่ของเธอจะล่ามเธอไว้กับเตียงและขู่จะทุบนิ้วมือของเธอด้วยค้อน แต่ Gypsy ก็ยังคงหาวิธีพูดคยกับชายเหล่านั้นต่อไปและหวังว่าพวกเขาจะช่วยเธอได้

ต่อมาในปี 2012 เธอก็พบกับ Nicholas Godejohn วัย 23 ปีจากรัฐวิสคอนซิน ซึ่งมีประวัติอาชญากรรมและประวัติความเจ็บป่วยทางจิต หลายเดือนหลังจากคุยกัน Nicholas ก็มาพบกับเธอในขณะที่ Dee Dee ออกไปข้างนอกเพียงลำพัง(ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หาได้ยาก) ทั้งคู่มีเพศสัมพันธ์กัน และหลังจากนั้นพวกเขาก็วางแผนฆาตกรรม Dee Dee

 

การฆาตกรรมและการหลบหนี 

Gypsy-Rose-Blanchard

Gypsy รอคอยมาตลอดให้ใครบางคนเข้ามาในชีวิตและช่วยเหลือเธอ และ Nicholas ก็ดูจะเป็นคนๆ นั้น ทั้งคู่วางแผนฆาตกรรม Dee Dee ผ่านทางข้อความในเฟซบุ๊คโดย Gypsy จะเปิดประตูให้ Nicholas เข้ามาตอนที่แม่ของเธอหลับเพื่อลงมือ และนั่นก็คือกลางเดือนมิถุนายน 2015 เมื่อ Nicholas ลงมือทุบตี Dee Dee อย่างโหดเหี้ยมบนเตียงนอนโดยมี Gypsy แอบฟังอยู่ที่ประตู หลังจากเธอตายแล้ว ทั้งคู่ก็หนีไปและแยกจากกันที่สถานีรถบัส

 

ความจริงถูกเปิดเผย

Gypsy-Rose-Blanchard

หลังจาก Gypsy ถูกพบตัวและเรื่องราวของเธอแพร่กระจายออกไป ความเห็นอกเห็นใจที่ผู้คนมอบให้ Dee Dee กลับเปลี่ยนไปที่ Gypsy แทน คนที่เคยเสียใจกับการเสียชีวิตของ Dee Dee ต่างก็เดือดดาลกับวิธีที่เธอทำกับลูกมาตลอดหลายปี ในที่สุดจิตแพทย์ก็กล่าวว่า Gypsy เป็นเหยื่อของการทารุณกรรมเด็ก และพฤติกรรมของ Dee Dee ก็เกิดจากอาการ Munchausen syndrome by proxy (พฤติกรรมที่บุคคลหนึ่ง สร้างเรื่อง, กล่าวเกินจริง หรือ ทำให้เกิดปัญหาทางกายหรือสุขภาพแก่ผู้ที่อยู่ในการดูแลโดยเฉพาะเด็ก เพื่อเรียกร้องความสนใจ - ข้อมูลจากคุณสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ ประธานมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก) แต่ไม่ว่าความเห็นของสาธารณชนจะเป็นอย่างไร ปัญหาการฆาตกรรมของเธอก็ยังคงมีอยู่

 

คำพิพากษา

Gypsy-Rose-Blanchard

ท้ายที่สุดแล้ว Gypsy ก็สารภาพว่าเธอว่าจ้าง Nicholas ให้ลงมือสังหารแม่ของเธอ หญิงสาววัย 24 ปี (ในขณะนั้น) ถูกตัดสินจำคุก 10 ปี จากความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ส่วน Nicholas ยังคงรอคำตัดสินอยู่ หลังจากถูกจำคุก Gypsy ได้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับอาการของ Dee Dee ที่ทำให้เธอถูกทารุณกรรมตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอรู้สึกสำนึกผิดต่อการฆาตกรรม แต่ก็ยังรู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นเมื่อไม่มีแม่อีกแล้ว Gypsy ให้สัมภาษณ์ในปี 2018 ขณะอยู่ที่เรือนจำว่า "ฉันรู้สึกเป็นอิสระในเรือนจำมากกว่าตอนที่อยู่กับแม่ของฉัน เพราะตอนนี้ ฉันสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนกับผู้หญิงปกติ"

 

Cr.allthatsinteresting

 

Moodymuay

Moodymuay


Moodymuay

Moodymuay

A STORYTELLER AND CONTENT EXPLORER